โพสฟรีทุกหมวดหมู่ ลงประกาศซื้อขายฟรี > บอร์ดใหม่รวมเว็บซื้อขาย

ใช้ที่ดินเพื่อประกอบการเกษตร ปลูกแค่ 1

<< < (2/3) > >>

ruataewada:
**เลี้ยงกุ้ง อาชีพหลักที่สร้างรายได้มั่นคง**

กุ้งเป็นสัตว์น้ำที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก และสามารถให้ผลผลิตได้สูง เลี้ยงกุ้งเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้มั่นคงให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี

**ประเภทของกุ้ง**

กุ้งมีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกเลี้ยง แต่ละสายพันธุ์มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ที่นิยมเลี้ยงกัน ได้แก่

* **กุ้งกุลาดำ** เป็นกุ้งที่เลี้ยงกันทั่วไปในประเทศไทย ทนทานต่อสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ
* **กุ้งขาวแวนนาไม** เป็นกุ้งที่เลี้ยงกันมากในต่างประเทศ โตเร็ว ให้ผลผลิตสูง
* **กุ้งก้ามกราม** เป็นกุ้งที่มีรสชาติดี นิยมบริโภคกันมาก

**การเตรียมการเลี้ยงกุ้ง**

ก่อนเลี้ยงกุ้งควรเตรียมการดังนี้

* **เลือกพื้นที่เลี้ยง** พื้นที่เลี้ยงควรอยู่ใกล้แหล่งน้ำ มีน้ำไหลผ่าน มีระบบระบายน้ำที่ดี
* **สร้างบ่อกุ้ง** บ่อกุ้งควรมีขนาดใหญ่พอสำหรับจำนวนกุ้งที่จะเลี้ยง บ่อควรมีหลังคาเพื่อป้องกันแดดและฝน
* **เตรียมอุปกรณ์เลี้ยงกุ้ง** อุปกรณ์เลี้ยงกุ้ง ได้แก่ อาหารกุ้ง น้ำดื่มกุ้ง กรงเลี้ยงกุ้ง

**การดูแลรักษากุ้ง**

การดูแลรักษากุ้งสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารกุ้ง** ควรให้อาหารกุ้งอย่างสม่ำเสมอ อาหารกุ้งควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มกุ้ง** ควรให้น้ำดื่มกุ้งอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **ควบคุมอุณหภูมิและคุณภาพน้ำ** อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมในการเลี้ยงกุ้งคือ 25-30 องศาเซลเซียส คุณภาพน้ำควรมีค่า pH ประมาณ 7.5-8.5
* **ป้องกันโรคกุ้ง** ควรหมั่นตรวจสุขภาพกุ้งอย่างสม่ำเสมอ และป้องกันโรคกุ้งตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

**เคล็ดลับการเลี้ยงกุ้ง**

* เลือกสายพันธุ์กุ้งที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง
* เตรียมการเลี้ยงกุ้งให้พร้อมก่อนเลี้ยง
* ดูแลรักษากุ้งอย่างสม่ำเสมอ

การเลี้ยงกุ้งเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้มั่นคงให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงกุ้งให้ประสบความสำเร็จ

**ข้อดีของการเลี้ยงกุ้ง**

* เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก
* สามารถให้ผลผลิตได้สูง
* ตลาดมีความต้องการสูง

**ข้อเสียของการเลี้ยงกุ้ง**

* ลงทุนเริ่มต้นค่อนข้างสูง
* เสี่ยงต่อโรคระบาด

**ช่องทางการจำหน่ายผลผลิตกุ้ง**

* ขายส่งให้กับพ่อค้าคนกลาง
* ขายปลีกให้กับผู้บริโภคโดยตรง
* ส่งออกไปยังต่างประเทศ

การเลี้ยงกุ้งเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้มั่นคงให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงกุ้งให้ประสบความสำเร็จ

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม

ruataewada:
**ทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์เป็นแนวทางเกษตรกรรมแบบผสมผสานที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นแนวทางที่สามารถนำเอาประโยชน์จากพืชและสัตว์มาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพืชจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับดินและเป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์ ส่วนสัตว์จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและช่วยดูแลสวนอีกด้วย

**ประโยชน์ของการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์มากมาย ดังนี้

* **เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร** สัตว์จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับดิน ทำให้ดินร่วนซุยและสามารถอุ้มน้ำได้ดี ซึ่งจะช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
* **ลดต้นทุนการผลิต** สัตว์จะช่วยกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ทำให้เกษตรกรไม่ต้องใช้สารเคมีหรือแรงงานในการกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิต
* **เพิ่มรายได้เสริม** เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม มูลสัตว์ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้เสริมให้กับเกษตรกร
* **สร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน** การทำสวนเลี้ยงสัตว์จะช่วยสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน โดยสัตว์จะช่วยเพิ่มวงจรชีวิตของพืชและช่วยรักษาสมดุลของธรรมชาติ

**ขั้นตอนในการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์สามารถทำได้โดยเริ่มจากการศึกษาข้อมูลและวางแผนการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง โดยควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

* **สภาพพื้นที่** ควรเลือกพื้นที่ที่มีดินร่วนซุย มีแหล่งน้ำเพียงพอ และมีแสงแดดส่องถึงเพียงพอ
* **วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง** ควรกำหนดวัตถุประสงค์ในการเลี้ยงว่าต้องการเลี้ยงเพื่อความสวยงาม เพื่อการบริโภค หรือเพื่อการศึกษา
* **พันธุ์พืชและสัตว์** ควรเลือกพันธุ์พืชและสัตว์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง

**ตัวอย่างการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

ตัวอย่างการทำสวนเลี้ยงสัตว์ เช่น การทำสวนผักและเลี้ยงไก่ไข่ การทำสวนผลไม้และเลี้ยงเป็ด การทำสวนไม้ดอกไม้ประดับและเลี้ยงปลา เป็นต้น

**ข้อควรระวังในการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์ควรคำนึงถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ดังนี้

* **ควรเลือกพันธุ์พืชและสัตว์ที่ทนต่อสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ**
* **ควรดูแลสัตว์ให้อยู่ในความสะอาดและปลอดภัย**
* **ควรหมั่นดูแลรักษาสวนและสัตว์อย่างสม่ำเสมอ**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์เป็นแนวทางเกษตรกรรมแบบผสมผสานที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกรได้อย่างมากมาย หากเกษตรกรศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ การทำสวนเลี้ยงสัตว์ก็สามารถประสบความสำเร็จและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม

ruataewada:
**ทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์เป็นแนวทางเกษตรกรรมแบบผสมผสานที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นแนวทางที่สามารถนำเอาประโยชน์จากพืชและสัตว์มาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพืชจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับดินและเป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์ ส่วนสัตว์จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและช่วยดูแลสวนอีกด้วย

**ประโยชน์ของการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์มากมาย ดังนี้

* **เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร** สัตว์จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับดิน ทำให้ดินร่วนซุยและสามารถอุ้มน้ำได้ดี ซึ่งจะช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
* **ลดต้นทุนการผลิต** สัตว์จะช่วยกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ทำให้เกษตรกรไม่ต้องใช้สารเคมีหรือแรงงานในการกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิต
* **เพิ่มรายได้เสริม** เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม มูลสัตว์ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้เสริมให้กับเกษตรกร
* **สร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน** การทำสวนเลี้ยงสัตว์จะช่วยสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน โดยสัตว์จะช่วยเพิ่มวงจรชีวิตของพืชและช่วยรักษาสมดุลของธรรมชาติ

**ขั้นตอนในการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์สามารถทำได้โดยเริ่มจากการศึกษาข้อมูลและวางแผนการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง โดยควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

* **สภาพพื้นที่** ควรเลือกพื้นที่ที่มีดินร่วนซุย มีแหล่งน้ำเพียงพอ และมีแสงแดดส่องถึงเพียงพอ
* **วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง** ควรกำหนดวัตถุประสงค์ในการเลี้ยงว่าต้องการเลี้ยงเพื่อความสวยงาม เพื่อการบริโภค หรือเพื่อการศึกษา
* **พันธุ์พืชและสัตว์** ควรเลือกพันธุ์พืชและสัตว์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง

**ตัวอย่างการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

ตัวอย่างการทำสวนเลี้ยงสัตว์ เช่น การทำสวนผักและเลี้ยงไก่ไข่ การทำสวนผลไม้และเลี้ยงเป็ด การทำสวนไม้ดอกไม้ประดับและเลี้ยงปลา เป็นต้น

**ข้อควรระวังในการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์ควรคำนึงถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ดังนี้

* **ควรเลือกพันธุ์พืชและสัตว์ที่ทนต่อสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ**
* **ควรดูแลสัตว์ให้อยู่ในความสะอาดและปลอดภัย**
* **ควรหมั่นดูแลรักษาสวนและสัตว์อย่างสม่ำเสมอ**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์เป็นแนวทางเกษตรกรรมแบบผสมผสานที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกรได้อย่างมากมาย หากเกษตรกรศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ การทำสวนเลี้ยงสัตว์ก็สามารถประสบความสำเร็จและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม

ruataewada:
**สนิม**

สนิม เกิดจากการทำปฏิกิริยากันระหว่าง ออกซิเจนและธาตุเหล็ก เกิดเป็นรอยของการเกิดการผุกร่อน เป็น Corrosion ประเภทหนึ่งซึ่งมักเกิดกับโลหะจำพวกเหล็ก

การเกิดสนิมสามารถอธิบายได้ดังนี้

* **ปัจจัยทางเคมี** เหล็กเป็นโลหะที่มีอิเล็กโทรดศักย์ต่ำ เมื่อสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศ เหล็กจะสูญเสียอิเล็กตรอนให้กับออกซิเจน เกิดเป็นสารประกอบออกไซด์ของเหล็กที่เรียกว่า สนิม

* **ปัจจัยทางกายภาพ** ความชื้นในอากาศ น้ำฝน และน้ำใต้ดิน เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการเกิดสนิม

* **ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม** อุณหภูมิที่สูง จะทำให้ปฏิกิริยาการเกิดสนิมเกิดขึ้นเร็วขึ้น

สนิมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยกับโลหะจำพวกเหล็ก ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างของโลหะและทำให้อายุการใช้งานของโลหะลดลง

วิธีป้องกันสนิมสามารถทำได้หลายวิธี เช่น

* **การเคลือบผิวโลหะ** ด้วยสารเคลือบผิว เช่น อีพ็อกซี่ โพลียูรีเทน หรือสีทาบ้าน จะช่วยป้องกันไม่ให้ออกซิเจนสัมผัสกับเหล็กได้โดยตรง

* **การชุบโลหะ** ด้วยสารกันสนิม เช่น สังกะสี โครเมียม หรือนิกเกิล จะช่วยป้องกันไม่ให้ออกซิเจนสัมผัสกับเหล็กได้โดยตรง

* **การบำรุงรักษาโลหะ** โดยหมั่นทำความสะอาดโลหะและทาสีซ้ำเมื่อสีเดิมเสื่อมสภาพ

หากพบสนิมบนโลหะ ควรรีบกำจัดสนิมออกโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้สนิมลุกลามไปทำลายเนื้อโลหะ

วิธีกำจัดสนิมสามารถทำได้หลายวิธี เช่น

* **การใช้สารเคมี** เช่น น้ำยากัดสนิม หรือน้ำยาขัดสนิม

* **การใช้ความร้อน** เช่น การเชื่อม การเผา หรือการใช้เครื่องเจียร

* **การใช้วิธีทางกายภาพ** เช่น การขัด การถู หรือการใช้แปรงลวด

การเลือกใช้วิธีกำจัดสนิมที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากชนิดของสนิม สภาพของโลหะ และสภาพแวดล้อม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada:
ลวดหนาม มีกี่ประเภท

ลวดหนามมี 2 แบบ
ลวดหนาม ที่เราพอจะนึกออกและเคยเห็น มีอยู่ 2 ประเภทที่เห็นได้ชัดๆ คือ

ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
ลวดหนามหีบเพลง
1. ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
ลวดหนามประเภทนี้ก็คือลวดหนามล้อมที่ดิน ล้อมบ้าน ล้อมส้วน ล้อมที่ดินทั่วไปของเรานั่นเอง โดยมากจะแบ่ง ตามลักษณะของปมหนาม หรือ รูปแบบวิธี หรือ คุณภาพการพันนั่นเอง

  1.1 ลักษณะของหนามปมลวดหนาม
ลวดหนามในปัจจุบัน มีรูปแบบการพันปมหนามอยู่ 2 แบบ คือ

1.1.1 การพันเกลียวหนามแบบธรรมดา (Conventional)
เป็นการพันเกลียวลวดหนามแบบเก่า มีโอกาสที่หนามจะหลุด หรือเกลียวหนามอาจคลายได้ในส่วนของตัวเส้นลวดจะมีการพันเกลียวแบบหลวมๆ ไม่แน่น มีโอกาสที่ติดตั้งแล้วจะทำให้ลวดหนามหย่อนในอนาคต ตัวอย่างมีให้เห็นตามทั่วไป (ตามรูปด้านล่าง)
ลวดหนามทั่วไป

ลวดหนามประเภทนี้เราผมเห็นกันได้มากตามพื้นที่ทั่วไป เส้นลวดมักมีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับลวดหนามประเภทอื่น แต่ค่อนข้างหาซื้อได้ง่าย ซึ่งมีข้อดีคือเป็นลวดหนามที่ราคาถูก มักขายเป็น ชั่งกิโลขาย ข้อเสียหนึ่ง คือเมื่อเป็นการชั่งกิโลขาย 5 กิโลบ้าง 10 กิโลบ้างจะ
 ทำให้ความยาวลวดแต่ละม้วน จะไม่เท่ากันเป็นเหตุผลให้การทำงานยากมากขึ้น เนื่องจากการที่ต้องทำการต่อลวดหลายรอบ

อีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอกับการล้อมรั้วลวดหนามคือ ขึ้นสนิมง่าย เพราะลวดหนามทั่วไป จะเป็นการชุบแบบไฟฟ้า (Electroplating) ซึ่งการชุบซิงค์แบบนี้ปริมาณซิงค์ที่ชุบค่อนข้างที่บางมาก ๆ ทำให้อายุการใช้งานของลวดหนามทั่วไปเกิดสนิมเร็ว ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี
เริ่มขึ้นสนิมแล้ว หรือจะเป็นปัญหาล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปจะขาดง่าย  ขึงไม่ตึง หย่อน  รวมถึงตัวเกลียวหนาม ที่ถักมาไม่แน่นทำให้เป็นสาเหตุของลวดหนามไม่ตึง และหย่อนง่าย ซึ่งถ้าสังเกตการล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปที่ติดตั้งตามท้องตลาด ติดตั้งไปได้ 1-2 เดือน รั้วลวดหนามทั่วไปจะเริ่มหย่อนเป็นท้องช้าง ไม่สวยงาม
หรือเห็นรั้วลวดหนามขาดเป็นบางช่วง  ทำให้เปลืองงบประมาณในการซื้อลวดหนามมาติดตั้งใหม่ เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าแรง

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version