โพสฟรี รองรับSeo และ youtube โพสประกาศขายฟรี

พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนมีความเข้าใจที่ผิดในเรื่องของฟันน้ำนมและการขึ้นของฟันแท้ในช่องปากของลูกน้อย โดยหลายท่านมักจะเชื่อว่าฟันน้ำนมไม่สำคัญ ถ้าหากลูกมีฟันน้ำนมผุแล้วต้องถอนฟันออกไปก็ไม่เป็นไร เพราะหากไม่มีฟันน้ำนมแล้วเดี๋ยวฟันแท้ก็จะขึ้นมาแทนที่ แต่ในความเป็นจริงแล้วฟันน้ำมันถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก  เพราะหากเด็กมีการสูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนกำหนด หรือก่อนวัยอันควร ในขณะที่หน่อฟันแท้ที่จะขึ้นมาแทนที่ยังมีการสร้างฟันไม่เสร็จ ก็อาจจะทำให้การขึ้นของฟันแท้มีความผิดปกติได้


ดังนั้น ฟันน้ำนมจึงมีความสำคัญ เพราะการที่เด็กใช้ฟันน้ำนมในบดเคี้ยวอาหารก่อนจะกลืนลงสู่กระเพาะ เพื่อนำอาหารไปใช้ในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมองและร่างกายที่สมบูรณ์ต่อไป จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าฟันน้ำนมเป็นประตูด่านแรกของการย่อยอาหารที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากเด็กมีฟันผุ อักเสบบวมเป็นหนอง มีอาการปวดฟัน หรือต้องถูกถอนฟันไปก่อนกำหนด ทำให้ไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้จะเกิดผลเสียต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกายตามมา อีกทั้งฟันน้ำนมยังมีบทบาทในการใช้พูดออกเสียงพยัญชนะ ทำให้เด็กออกเสียงได้ชัดเจน เกิดผลต่อภาพลักษณ์และบุคลิกภาพที่ดีและมีรอยยิ้มที่สวยงาม เสริมความมั่นใจด้วย เพราะฉะนั้น ผู้ปกครองควรที่จะให้ความสำคัญในเรื่องของฟันน้ำนมของเด็กด้วย นอกจากนี้ พฤติกรรมในวัยเด็ก ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพฟันได้เช่นเดียว เด็กบางคนมีพฤติกรรมการดูดนิ้ว ดูดขวดนม ซึ่งเป็นเรื่องปกติของวัยเด็ก แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดปัญหาฟันได้ในอนาคต

 
ดังนั้น วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงพฤติกรรมของเด็กที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพฟันของเด็กได้ในอนาคต เป็นเรื่องปกติที่เด็กส่วนใหญ่จะชื่นชอบรับประทานของหวาน เช่น ลูกอม หมากฝรั่ง หรืออาหารที่มีรสชาติ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องปกติของเด็ก แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ การทำความสะอาดช่องปากและฟัน ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถแนะนำและสอนให้เด็กรู้จักวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการเกิดฟันผุหรือปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน


นอกจากนี้ พฤติกรรมการดูดนิ้วเป็นลักษณะปกติจากความต้องการทางร่างกายของเด็ก  โดยการดูดนิ้วจะช่วยให้เด็กสบายใจผ่อนคลายความเหนื่อย ความหิว ความไม่สบายต่าง ๆ เมื่อเด็กเริ่มเข้าโรงเรียนหรืออายุ 3-4 ปี แต่ถ้ายังไม่เลิกนิสัยดังกล่าว จะส่งผลทำให้เกิดการสบฟันหน้าเปิด ฟันหน้าบนยื่น เกิดลักษณะการกลืนที่ผิดปกติ ฯลฯ ถ้าความผิดปกติไม่รุนแรง และเด็กเลิกดูดนิ้วได้เร็วลักษณะผิดปกติ อาจจะดีขึ้นเองจนถึงหายได้เอง การพยายามให้เด็กเลิกดูดนิ้วอาจเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น ใช้มือจับของ เล่นแทนการเอานิ้วมือใส่ปาก ไม่ควรตำหนิ ดุ ว่า หรือทำให้เกิดความอาย ถ้าเด็กพอเข้าใจเหตุผลได้ควรใช้วิธีพูดคุยทำความเข้าใจ ให้เด็กรู้สึกอยากเลิกนิสัยดังกล่าวเอง กรณีเด็กยังเผลอเอานิ้วมือเข้าปาก โดยเฉพาะเมื่อเด็กง่วงนอนหรือจะเคลิ้มหลับ อาจแนะนำให้ใช้พลาสเตอร์พันนิ้วไว้ ถ้าเด็กไม่สามารถเลิกได้เองให้ปรึกษาทันตแพทย์ เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อฟันโดยตรง และสามารถแก้ไขได้โดยการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก

 
ด้วยโปรแกรม EF Line โดยสามารถใช้ได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 4-7 ปี โดยเครื่องมือ EF Line นี้ สามารถแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหารูปหน้าที่มีคางหลุบ ค้างเบี้ยวกระดูกและฟันบนยื่น และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้นซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้าได้ ดังนั้น หากบุตรหลานของท่านมีพฤติกรรมดังกล่าว ก็สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้าพบทันตแพย์จัดฟัน เพื่อปรึกษาและทำการตรวจได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้เด็กโต เพราะการจัดฟันในเด็ก สามารถแก้ไขปัญหาฟันของลูกได้ตั้งแต่เนิ่นๆเลย


หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันของบุตรหลานของท่านและสนใจเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดต่างๆได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่จะให้บุตรหลานของท่านได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย ช่วยปลูกฝังทัศนคติที่ดีในการดูแลสุขภาพฟัน และรู้จักวิธีการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะได้มีฟันที่สวยงามและแข็งแรง สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และส่งเสริมในเรื่องของพัฒนาการในเด็กอีกด้วย




จัดฟันบางนา: พฤติกรรมของเด็ก ที่อาจจะส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/

“กระชายขาว” ทางกระทรวงสาธารณสุขได้บรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ ว่า กระชายขาวนั้นมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย และช่วยในการขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ โดยการใช้กระชายขาวเป็นยาสมุนไพรบำบัด รักษาโรคควบคู่ไปกับยาแพทย์แผนปัจจุบัน และยังใช้ทดแทนเพื่อลดการนำเข้ายาแผนปัจจุบันจากต่างประเทศอีกด้วย


กระชายขาวช่วยต้านโรคต่างๆได้ ดังนี้

กระชายขาวช่วยต้านเชื้อไวรัส : อ้างอิงถึงงานวิจัยที่เกิดจากความร่วมมือของคณะวิทยาศาสตร์ และ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล รวมทั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(องค์การมหาชน) หรือ TCELS พบว่า สารสกัดกระชายขาว สามารถทำหน้าที่ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส อีกทั้งยังสามารถลดจำนวนเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสได้กว่า 100%

กระชายขาวช่วยแก้ฝ้าขาวในปาก : พบบ่อยในเด็กเล็กและผู้ที่ภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ เช่นผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยเบาหวาน เกิดจากการเสียสมดุลระหว่างเชื้อราแคนดิดา (Candida) และแบคทีเรียประจำถิ่นในช่องปากจนกลายเป็นเชื้อรา


กระชายขาว
กระชายขาวช่วยแก้อาการปวดเมื่อย : เหง้าและน้ำมันหอมระเหย ของกระชายมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการหดตัว ของกล้ามเนื้อ ลดอาการปวด แก้อาการปวดเมื่อย

กระชายขาวช่วยแก้อาการปวดท้อง มวนท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ สารสกัดกระชายขาวมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย E. coli ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแน่นจุกเสียด นอกจากนั้นสาร cineole มีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ จึงลดอาการปวดเกร็ง น้ำมันหอมระเหยของกระชายขาวมีฤทธิ์บรรเทาอาการหดตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้ามเนื้อของระบบทางเดินอาหาร

กระชายขาวช่วยแก้ท้องร่วง ท้องเสีย บิด : อาการท้องเสียอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย อาการหลัก ๆ ของโรคบิดที่พบ อาการท้องเสีย ถ่ายอุจจาระบ่อย เมื่อถ่ายอุจจาระจะมีมูกหรือมูกเลือดออกมาด้วย และปวดท้องเป็นพักๆ

กระชายขาวช่วยแก้ริดสีดวงทวาร : จะมีอาการเลือดออกขณะหรือหลังถ่ายอุจจาระ มีติ่งหรือก้อนที่ทวารหนักอาจมีอาการคัน ปวด เจ็บ บริเวณที่เป็นริดสีดวง แต่หากเป็นมะเร็งลำไส้จะถ่ายเป็นเลือดปนมากับอุจจาระ โดยส่วนมากโรคริดสีดวงจะสามารถรักษาให้หายเองได้

กระชายขาวช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท้า : เป็นโรคผิวหนังที่มักจะเกิดจากเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ผิวหนังบริเวณเท้าแช่อยู่ในน้ำสกปรกเป็นเวลานาน หรือมีความชื้นที่เท้าตลอดเวลา ผิวหนังลอก คัน มีตุ่มน้ำใส มีอาการปวด บวมแดง กดเจ็บ หรืออักเสบมากทำให้มีไข้ได้ พบบ่อยในช่วงที่เกิดน้ำท่วม

กระชายขาวช่วยบำรุงหัวใจ : บำรุงระบบกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรง และกระตุ้นให้หัวใจเต้นสม่ำเสมอ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น สูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย สร้างระบบหมุนเวียนเลือดได้อย่างสมบูรณ์

กระชายขาวช่วยไล่แมลง : กระชายเอามาใช้ทางด้านการเกษตรอีกด้วย โดยการใช้กลิ่นฉุนของกระชายเพื่อขับไล่แมลงศัตรูพืชมากัดกินพืชผล ดอก ใบเกิดความเสียหายทางการเกษตร



กระชายสกัด: กระชายขาวช่วยอะไร อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมนั้น เป็นการรักษาที่ได้รับึวามนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากการใส่ฟันปลอม เพื่อทดแทนการสูญเสียฟัน เริ่มจะไม่เป็นที่นิยมแล้วในปัจจุบัน เพราะมีข้อบกพร่องอยู่หลายประการ ซึ่งยังไม่ตอบโจทย์มากนักในการใช้ชีวิตในสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย การรับประทานอาหาร ก็จะเกิดปัญหาตลอดเมื่อต้องใส่ฟันปลอม การฝังรากฟันเทียมจึงเป็นการทดแทนฟันที่ตอบโจทย์มากกว่า เพราะเป็นการฝังรากฟันเทียมเข้าไปในช่องปาก ทำให้รู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่าการใส่ฟันปลอม ซึ่งอาจจะทำให้หลุด หรือพูดไม่ชัด ส่งผลให้เสียบุคลิกภาพ และทำให้เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันได้

สำหรับการรักษาด้วยการฝังรากฟันเทียม ในแต่ละกรณีอาจจะพบปัญหาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับบุคคล บางครั้งอาจจะเกิดอาการเจ็บปวด เนื่องจากอุปกรณ์ของการรักษาที่ติดตั้งอยู่ภายในช่องปาก และทำให้เกิดการอักเสบได้ในที่สุด ผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมจะต้องดูแลรักษาความสะอาดให้มากเป็นพิเศษ ทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ หากผู้เข้ารับการรักษาละเลยการดูแลรักษาความสะอาด ก็อาจจะทำให้เกิดอาการรากฟันเทียมอักเสบบริเวณเหงือกและบริเวณรอบๆของรากฟันเทียม ซึ่งอาจจะทำให้อกิดการติดเชื้อตามมาได้ จะทำให้การรักษายุ่งยากเข้าไปอีก

ดังนั้นผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยการฝังรากฟันเทียมจะต้องเอาใจใส่ช่องปากมากเป็นพิเศษ ด้วยการเลี่ยงการขบเคี้ยวแรงๆ ควรเลือกรับประทานอาหารที่อ่อนๆ เพื่อลกแรงบดเคี้ยวที่จะทำให้ส่งผลต่อรากฟันเทียมและบาดแผล รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงอาหารที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด เพราะจะทำให้แผลหายช้า นอกจากนี้การไม่ระวังในการใช้งานของฟัน ก็ส่งผลให้เกิดการอักเสบได้ เช่นการเปิดฝาขวดด้วยน้ำอัดลม ซึ่งจะทำให้รากฟันเทียมเกิดการกระทบกระเทือน หรืออาจะทำให้รากฟันเทียมหลุดได้ ซึ่งหากรากฟันเทียมหลุด จะทำการแก้ไขได้ยาก ทันตแพทย์จะแนะนำให้ทำการฝังรากฟันเทียมใหม่อีกครั้ง เพราะรากฟันเทียมที่ทำชำรุดไม่สามารถใช้งานได้แล้ว

และอีกข้อห้ามที่สำคัญสำหรับการฝังรากฟันเทียม คือการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากอยู่แล้ว ข้อนี้หลายคนคงทราบกันดี เพราะจะทำให้เหงือกเกิดการอักเสบ เกิดภาวะเหงือกร่นได้ ทำให้กระดูกขากรรไกรไม่แข็งแรง ซึ่งจะทำให้ผลการรักษาเกิดความล้มเหลวได้

สำหรับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ผู้เข้ารับการรักษาควรจะงดตั้งแต่ก่อนทำ ไปจนถึงขั้นตอนการดูแลหลังการรักษา เพราะแอลกอฮอล์จะส่งผลให้บาดแผลจากการผ่าตัดหายช้า และยังทำให้เลือดไหลไม่หยุดอีกด้วย โดยจะส่งผลโดยตรงต่อบาดแผล เพราะฉะนั้น การที่รากฟันเทียมเกิดการอักเสบ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้เข้ารับการรักษาไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์นั่นเอง



จัดฟันบางนา: วิธีป้องกัน รากฟันเทียมอักเสบ ! อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/

แอปเปิล APPLE iPhone Xs Max (4GB/512GB)
ดีไซน์พรีเมี่ยม ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Apple A12 Bionic หน้าจอ OLED ขนาด 5.8 นิ้ว

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น             แอปเปิล APPLE iPhone Xs Max (4GB/512GB)
   ราคากลาง           57,900 บาท
   จำนวนซิม           2 ซิม
   แบบดีไซน์           จอสัมผัส
   สี                     ดำ, ขาว, ทอง

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 - SIM 1 & SIM 2 (dual-SIM) - for China)
3G(HSDPA 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100)
4G(LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 4(1700/2100), 5(850), 7(2600), 8(900), 12(700), 13(700), 14(700), 17(700), 18(800), 19(800), 20(800), 25(1900), 26(850), 29(700), 30(2300), 32(1500), 34(2000), 38(2600), 39(1900), 40(2300), 41(2500), 46, 66(1700/2100),)

   ขนาด-น้ำหนัก                     ยาว 157.5 x กว้าง 77.4 x หนา 7.7 มม., น้ำหนัก 208 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)     512 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด         -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ           N/A

จอแสดงผล
   ชนิดจอ                         จอสัมผัส (OLED Super Retina)
   ความละเอียด                  6.5 นิ้ว, 458 ppi, 1,242 x 2,688 px
   รายละเอียดอื่น                 กล้องหลังคู่ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล (F1.8/F2.4)

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (12 Mpx), กล้องหน้า (7 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                              -       

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)           CPU Apple A12 Bionic
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
   หน่วยความจำ (RAM)               4.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก               Bluetooth, NFC, Wi-Fi
   ระบบรับส่งข้อความ                   SMS, MMS, EMAIL, PUSH MAIL
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต              3G, GPRS, EDGE, WiFi, 4G
   ระบบ GPS                              ไม่มี


มือถือ Iphone แอปเปิล APPLE iPhone Xs Max (4GB/512GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/apple/

เอาใจว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาว ทียังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะจัดเลี้ยงแบบไหนดี วันนี้มีคำแนะนำเกี่ยวกับรูปแบบการจัดเลี้ยงมาฝากกันค่ะ ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะอยู่ในช่วงล็อกดาวน์ แต่เราสามารถเตรียมความพร้อม วางแผนจัดงานแต่เนิ่นๆได้ ยิ่งมีเวลาเตรียมงาน ก็จะยิ่งทำให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดค่ะ วันสำคัญของเราทั้งที ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดจริงไหมคะ

แน่นอนว่าช่วงระหว่างเตรียมงาน ต้องมีรายละเอียดยิบย่อยให้ตัดสินใจอยู่หลายส่วนมาก แต่ส่วนของอาหารจัดเลี้ยงก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเป็นสีสันของงานและแทนคำขอบคุณสำหรับแขกที่มาร่วมงานของเรา จะจัดเลี้ยงแบบไหนดีถึงจะเหมาะสม จะเลือกอาหารแนวไหนให้แขกพอใจดี ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เราให้คำแนะนำคุณได้ค่ะ

สำหรับรูปแบบจัดเลี้ยงที่นิยมจัดจะแบ่งออกเป็น 5 แบบ


1. จัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ – Buffet

บุฟเฟ่ต์เป็นหนึ่งรูปแบบที่นิยมมากในงานจัดเลี้ยง เน้นจานหนักทานอิ่ม เหมาะสำหรับงานเลี้ยงที่มีแขกผู้ใหญ่จำนวนมาก เนื่องจากเมนูส่วนใหญ่เป็นอาหารไทยที่คุ้นเคยและมีเมนูอาหารหลากหลาย แขกสามารถเลือกตักอาหารทานได้ตามความชอบ เติมเพิ่มได้ไม่อั้น ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแขกหลายๆท่านที่มาร่วมงานแน่นอนเลยค่ะ โดยจุดตั้งไลน์อาหารจะตั้งอยู่ในบริเวณห้องโถงหลังบอลรูมเป็นหลัก และสิ่งสำคัญคือควรวางแผนจำนวนของแขกคร่าวๆ เพื่อให้ปริมาณอาหารเพียงต่อแขกที่มาร่วมงานด้วยค่ะ

จัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์

    ห้องบอลรูมและห้องโถงรองรับได้ 300 ท่าน
    ห้องบูติครองรับได้ 50 ท่าน
    บริเวณสนามรองรับได้ 180 ท่าน

รวมสูงสุด 530 ท่าน (รูปแบบผังที่นั่งแบบนั่งผสมยืน)


2. จัดเลี้ยงแบบค็อกเทล – Cocktails

 การจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล จุดเด่นคือจะจัดเสิร์ฟอาหารขนาดพอดีคำ น่ารัก กะทัดรัด สามารถหยิบทานได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับงานที่รองรับแขกได้จำนวนมาก สามารถเลือกหยิบอาหารและเดินพูดคุยอย่างเป็นกันเองภายในงานกันได้อย่างอิสระ ให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนมาพบปะ สังสรรค์กัน ไลน์อาหารถูกประดับตกแต่งให้เข้ากับธีมงาม มีความสวยงามและน่าทาน โดยการตั้งไลน์อาหารมีความยืดหยุ่น สามารถเลือกจัดที่ห้องบอลรูม ห้องโถง หรือบริเวณสนามได้ค่ะ ข้อดีของแบบค็อกเทลอีกหนึ่งอย่างคือสามารถยืดหยุ่นได้ ไม่มีปัญหาเรื่องแขกมาน้อยหรือมากว่าจำนวนที่วางแผนไว้ค่ะ

จัดเลี้ยงแบบค็อกเทล

    ห้องบอลรูมและห้องโถงรองรับได้ 450 ท่าน
    ห้องบูติครองรับได้ 70 ท่าน
    บริเวณสนามรองรับได้ 200 ท่าน

รวมสูงสุด 720 ท่าน

(รูปแบบผังที่นั่งแบบนั่งผสมยืน)


3. จัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน – Chinese Banquet table

รูปแบบโต๊ะจีนเป็นที่นิยมมากในงานจัดเลี้ยง เนื่องจากมีความสะดวกสบายและไม่วุ่นวาย เป็นอีกรูปแบบที่เหมาะสำหรับแขกผู้ใหญ่เป็นส่วนมาก มีการจัดโต๊ะแบบเฉพาะกลุ่มใครกลุ่มมัน ลดการใกล้ชิดกับแขกที่ไม่สนิท แขกในงานสามารถอิ่มอร่อยกับอาหารร้อนๆที่เสิร์ฟให้ถึงโต๊ะโดยที่ไม่ต้องเดินไปตักอาหารเอง และมีเมนูให้เลือกทานถึง 10 เมนูต่อโต๊ะ ซึ่งแต่ละเมนูล้วนแล้วแต่เป็นอาหารจากวัตถดิบชั้นเลิศที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี จากพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำโต๊ะจีนกว่า 50 ปีเลยค่ะ นอกจากอาหารจีนแล้ว คุณสามารถเลือกจัดเลี้ยงเป็นโต๊ะไทย (อาหารไทย) ได้ด้วยเช่นกัน แต่รูปแบบโต๊ะจีนนั้นคุณอาจต้องคำนึงถึงจำนวนแขกที่จะมาร่วมงาน เพื่อให้เพียงพอต่ออาหารและโต๊ะที่จัดไว้ด้วยค่ะ


จัดเลี้ยงแบบโต๊ะกลม

    ห้องบอลรูมรองรับได้ 200 – 230 ท่าน และ ห้องโถง 50-60 ท่าน รวมสูงสุด 290 ท่าน
    ห้องบูติครองรับได้ 70 ท่าน
    บริเวณสนามรองรับได้ 180 ท่าน

รวมสูงสุด 540 ท่าน


4. จัดเลี้ยงแบบเซ็ทเมนู – Set Menu

การเสิร์ฟอาหารแบบเซ็ทเมนูจะเป็นการเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส เริ่มตั้งแต่เสิร์ฟ Appetizer ซุป เมนูจานหลัก และขนมหวาน ซึ่งแต่ละเซ็ทจะเสิร์ฟอาหารเริ่มต้น 4 คอร์สต่อท่าน แล้วแต่เลือกตามความเหมาะสม สามารถจัดได้ทั้งแบบโต๊ะกลมและ Long table เพราะเป็นการเสิร์ฟอาหารทีละจานอยู่แล้ว ซึ่งรูปแบบนี้จะมีความสวยงามและหรูหรากว่าประเภทอื่น เนื่องจากมีพื้นที่ว่างตรงกลางโต๊ะที่สามารถประดับตกแต่งดอกไม้เพิ่มเติมเข้าไปได้อีก

รูปแบบนี้เริ่มเป็นที่นิยมในช่วงนี้มากขึ้น เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเว้นระยะห่าง ลดการสัมผัส การเลือกแบบ Set menu ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากค่ะ ไม่ต้องแชร์อาหารร่วมกับแขกท่านอื่นๆ แต่จะมีความยุ่งยากในเรื่องของการคอนเฟิร์มจำนวนแขกที่จะมาร่วมงานอยู่บ้าง เพราะต้องมีการวางแผนเรื่องการจัดผังที่นั่ง กำหนดจำนวนแขกเพื่อให้พอดีกับจำนวนคอร์ส และเรื่องที่ควรต้องระวัง เช่น การแพ้อาหารและการเลือกเมนูอาหารที่เหมาะสมต่อแขกผู้มาร่วมงานแต่ละท่าน เนื่องจากมีตัวเลือกอาหารน้อยกว่ารูปแบบอื่นๆและแขกไม่สามารถเลือกอาหารทานเองได้

จัดเลี้ยงแบบ Set Menu

    ห้องบอลรูมและห้องโถงรองรับได้ 250 ท่าน
    ห้องบูติครองรับได้ 60 ท่าน
    บริเวณสนามรองรับได้ 120 ท่าน



5. ซุ้มอาหาร – Food Station

ซุ้มอาหาร เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคู่บ่าว-สาวที่ต้องการจัดเต็ม เป็น Additional option เพิ่มให้กับแขกได้อิ่มเอมกันเต็มที่ โดยเราสามารถเลือกได้ทั้งเมนูคาว-หวาน หรือเป็นอาหารทำสดจากเชฟฝีมือดีที่ยกทีมมาทำอาหารสดๆในงานของคุณ เป็นอาหาร Fresh cooked ที่ทำทีละจานเล็กๆเพื่อให้แขกได้ทานอาหารจานร้อนจากเตา การจัดซุ้มยังช่วยลดความแออัด ลดการสัมผัส ทำให้แขกได้กระจายตัว และเลือกทานอาหารตามใจชอบได้ทั่วบริเวณงาน โดยซุ้มอาหารและเครื่องดื่มจะจัดเสิร์ฟสำหรับ 100 เสิร์ฟขึ้นไปต่อ 1 ซุ้มค่ะ สามารถจัดซุ้มได้ทั้งภายในและภายนอกบริเวณสนามค่ะ

แต่ปัจจุบันไม่ได้มีรูปแบบที่ตายตัว สามารถประยุกต์จัดเลี้ยงแบบผสมกันได้ แล้วแต่ความเหมาะสมและความชอบของคู่บ่าว-สาว ตัวอย่างเช่นเลือกจัดแบบค็อกเทล ก็สามารถเพิ่มซุ้มขนมหวานให้มีความกุ๊กกิ๊กน่ารักเป็นกิมมิค หรือเอาใจแขกของคุณได้ อย่างเช่น ซุ้มไอศกรีม ซุ้มแพนเค้ก ซุ้มชานมไข่มุก หรือจะเป็น Candy Station ซุ้มยอดนิยมเอาใจเด็กๆได้ดีเลยค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มซุ้มอาหารด้านนอก เพื่อให้แขกได้เต็มอิ่มและเพลิดเพลินกับเมนูอาหารแสนอร่อยแบบจุใจ ทำให้บรรยากาศของงานมีสีสันและมีการเคลื่อนไหวไม่น่าเบื่อด้วยค่ะ และหากมีแขกจำนวนมาก สามารถจัดผสมเป็นโต๊ะนั่งผสมยืน แบ่งที่นั่งสำหรับญาติผู้ใหญ่จะได้มีที่นั่งสบายๆ และจัดเป็นโต๊ะสตูสูงสำหรับเพื่อนฝูงก็ได้เช่นกันค่ะ

ไม่ว่าคุณอยากจัดเลี้ยงรูปแบบไหน อยากได้ธีมงานอย่างไร วิลลา เดอ บัว สามารถให้คำแนะนำคุณได้ นอกจากนี้เรายังมีพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดเลี้ยงอย่าง ที่พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องเมนูอาหารเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์งานของคุณ สามารถเลือกเมนูและนัดชิมอาหารล่วงหน้าก่อนจัดงานได้ เพื่อให้วันสำคัญของคุณเป็นงานที่ประทับใจทั้งผู้ให้และผู้รับค่ะ




สไตล์จัดเลี้ยง การจัดเลี้ยงนอกสถานที่ แบบไหนที่เหมาะกับงานแต่งของคุณ? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

หนาวแล้วนะ เสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้า หมวก เตรียมให้พร้อม!! ฤดูหนาว ปีนี้จะยาวนานกว่าทุกปี อากาศจะเย็นลงและอุณหภูมิจะลดต่ำสุด 8-9 องศาฯ เตรียมร่างกาย ให้แข็งแรงรับมือหนาวนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2565 จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566

เตรียมรับลมหนาว กรมอุติวิทยา ออกมาแจ้งอากาศหนาวสำหรับฤดูหนาวนี้จะอยู่ยาวนานถึง 4 เดือน นอกจากจะต้องเตรียมเครื่องนุ่งห่มให้ร่างกายอบอุ่นแล้ว ยังต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวน จากร้อน สู่ฝน จากฝนไป หนาว ร่างกายต้องใช้เวลาปรับตัว

สภาพดินฟ้าอากาศ ที่ไม่แน่นอนย่อมส่งผลเสียให้กับร่างกายอย่างแน่นอน การลดลงหรือเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิอากาศมีผลต่อสภาพร่างกายของเราทั้งนั้น แต่จะมีการเตรียมพร้อม เช็กร่างกายให้แข็งแรงเตรียมรับกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล จากหน้าฝน เข้าสู่หน้าหนาว จำนวนผู้คนไม่น้อยที่มักจะป่วย จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษในช่วงฤดูกาลนั้นๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงได้ง่าย จะต้องมีการเตรียมพร้อมร่างกาย และดูแลสุขภาพให้แข็งแรงต้อนรับลมหนาวนี้


วิธีดูแลสุขภาพร่างให้แข็งแรงต้อนรับลมหนาวนี้


เตรียมเครื่องนุ่งห่มให้พร้อม

เมื่ออากาศหนาวมาแล้ว สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ ร่างกายต้องอบอุ่นไว้ก่อนโดยเฉพาะมือและเท้า เพราะเป็นแหล่งรวมเส้นประสาทมากมาย การสวมถุงมือและถุงเท้าจะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่จะป่วยได้ เมื่อมือและเท้าเย็นจนเกินไป นอกจากถุงมือถุงเท้าแล้ว เสื้อกันหนาวและกางเกงขายาวก็มีความจำเป็นเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น แต่หากอากาศเย็นมากควรมีผ้าพันคอสวมใส่


รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ฤดูหนาว เป็นช่วงที่ผู้คนเจ็บป่วยกันค่อนข้างมาก ร่างกายอ่อนแอ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง โดยเน้นกลุ่มผักและผลไม้ เพราะผักและผลไม้มีวิตามินที่อุดมไปด้วยประโยชน์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยป้องกันโรคหวัด โรคระบบทางเดินหายใจ ทั้งผักและผลไม้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อต่อสู้กับเชื้อก่อโรคอีกด้วย


ดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ หรือน้ำสมุนไพร

การดื่มน้ำอุ่นๆจะช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ช่วยบรรเทาความหนาว การดื่มน้ำมากๆจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยในเรื่องการขับถ่าย ช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของลำไส้ได้ดี ดังนั้นการดื่มน้ำอุ่นๆหรือน้ำสมุนไพร เช่น น้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว นอกจากให้ความอบอุ่น ช่วยทำให้ชุ่มคอ สรรพคุณของกระชายยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย หรือ น้ำเห็ดสามสหาย คุณประโยชน์ที่ได้จากในเห็ดคือ เบต้ากลูแคน ที่มีส่วนช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายเช่นเดียวกัน นอกจากจะอบอุ่นแล้วยังได้ประโยชน์ให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีด้วยเช่นกัน


ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายอบอุ่น ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่าออกกำลังกายในช่วงปกติ ยังช่วยระบบหมุนเวียนเลือดและเติมความอบอุ่นให้ร่างกาย โดยการออกกำลังกายนั้นควรเลือกตามความเหมาะสมของร่างกาย เดินเร็ว หรือวิ่ง การออกกำลังกายทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ควรหมั่นออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง


รับประทานวิตามิน หรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

เมื่อเจอกับอากาศเย็น อากาศหนาว ทำให้เสี่ยงการติดเชื้อโรคหวัด หรือโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่าย ร่างกายเจ็บป่วยง่าย ควรต้องหาตัวช่วยพิเศษเพื่อเพิ่มการป้องกันด้วยการรับประทานวิตามิน หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ให้ห่างไกลโรคหวัดและโรคทางเดินหายใจ หรือเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วย สารสกัดกระชายขาว จากงานวิจัยที่เกิดจากความร่วมมือของคณะวิทยาศาสตร์ และ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลว่า สารสกัดกระชายขาวสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้ กระชายขาวช่วยบรรเทาโรคทางเดินหายใจได้ และยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายทำงานปกติ ทำงานร่วมกับส่วนผสม เบต้ากลูแคน วิตามินซีและวิตามินบี จะยิ่งช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย


บำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น

อากาศที่แห้งและเย็นมักจะทำให้ผิวหนังแห้ง เกิดจากการที่น้ำในผิวหนังชั้นหนังกำพร้าลดลง เมื่อผิวแห้งส่งผลให้เกิดอาการแสบคัน การเกาอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังได้ การทาครีมและโลชั่น จะช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น ลดอาการแห้ง แตก ลอก ของผิวหนังได้ หรือทาลิปบาล์ม ลิปมันจะช่วยทำให้ริมฝีปากไม่แห้งและแตก เป็นแผลได้


พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง การนอนหลับเพียงพอส่งผลโดยตรงต่อระบบการทำงานภายในร่างกายอย่างมาก เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ร่างกายเมื่อได้นอนพักเต็มที่ จะทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน


สรุป   

หลายคนสงสัย แล้วทำไมจะต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรง เพราะเมื่อสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย หรือเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน มักจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลด ภูมิต้านทานกำลังต่ำลง โดยเฉพาะวัยที่มีความเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือแม้แต่ผู้ที่ได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ ดื่มน้ำน้อย ใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะป่วยกับโรคที่มาพร้อม ฤดูหนาว




กระชายพลัส: เตรียมร่างกาย ให้แข็งแรงรับมือหนาวนี้  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

รู้จัก Doctor At Home
Doctor at Home คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ ข้อมูลโรคที่รอบด้าน ทั้งอาการ สาเหตุ วิธีรักษา การป้องกัน ไปจนถึงการดูแลตนเอง อีกทั้งยังรวมข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งคัดสรรมาเพื่อผู้ใช้งานของเรา

Doctor at Home โปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เป็นการตรวจอาการเบื้องต้นแบบ interactive ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจจะเป็น รวมไปถึงวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยโปรแกรมนี้ได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” ของ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดทำให้ใช้งานได้บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน LINE

ข้อมูลโรค พร้อมโปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลโรค อาการ สาเหตุ การป้องกันและการรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง โดยเราได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2” โดย รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และข้อมูลโรคที่ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเพิ่มเติมมารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่หลังจากอ่านข้อมูลโรคแล้ว ท่านยังสามารถตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ว่าท่านมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนั้น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
มีแล้วอุ่นใจ เจ็บป่วย ช่วยเหลือฉุกเฉิน แค่ Add LINE @DoctorAtHome ให้มาเป็น “หมอประจำบ้าน” คอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ

ไลน์ ID  :  @DoctorAtHome
เว็บไซด์: https://doctorathome.com/