“ค่าน้ำมัน” ถือเป็นอีกหนึ่งต้นทุนสำคัญสำหรับธุรกิจทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจโลจิสติกส์ การขนส่ง รวมไปถึงธุรกิจที่จำเป็นที่ต้องให้พนักงานเดินทางไปพบลูกค้าตามจุดต่าง ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่จะต้องตรวจสอบเลือกรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาว ตลอดจนมีควบคุมความปลอดภัยเท่านั้น แต่ธุรกิจยังควรมีการควบคุมการใช้งานทรัพย์สินของบริษัท เพื่อป้องกันการใช้งานโดยพลการและการทุจริตจนนำไปสู่ความเสียหายที่มีค่าใช้จ่ายตามมาจำนวนมากด้วย
โดยนอกจากการติดตั้งระบบติดตาม รวมไปถึงการระบุตัวตนคนขับแล้ว เจ้าของธุรกิจยังควรใช้บัตร Fleet Card เพื่อป้องกันการทุจริตการใช้น้ำมันอีกด้วย แล้ว
บัตร Fleet Card คืออะไร ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างไร ที่นี่มีคำตอบ!
บัตร Fleet Card คืออะไร บัตร Fleet Card คือ บัตรเติมน้ำมันประเภทที่เจ้าของบัตรสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้ตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถกำหนดประเภทของน้ำมันและเชื้อเพลิงได้อีกด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการจำกัดวงเงินเพื่อใช้เติมน้ำมันเพื่อป้องกันการทุจริตเท่านั้น แต่ตัวบัตร Fleet Card ยังเชื่อมต่อกับเจ้าของบัตรโดยตรง ทำให้ตรวจสอบยอดการใช้งานได้แบบเรียลไทม์ ทั้งยังสรุปค่าใช้จ่ายเรื่องการใช้น้ำมันแบบเสร็จสรรพ มีรายงานค่าใช้จ่ายการใช้น้ำมัน ทำให้ธุรกิจสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของการใช้ Fleet Card การใช้บัตร Fleet Card ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ธุรกิจบริหารจัดการค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยป้องกันการทุจริตเท่านั้น แต่การใช้ Fleet Card ยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้ เพราะบัตรตัวนี้ถือเป็นบัตรเครดิตนิติบุคคลประเภทหนึ่ง ซึ่งจะมีการยกเว้นดอกเบี้ยในการชำระเงินสูงถึง 55 วัน นอกจากนี้ ตัวบัตรยังสามารถช่วยวางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก Fleet Card สามารถรายงานค่าใช้จ่ายแบบแยกภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งสะดวกต่อการนำค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มาคิดภาษีอีกด้วย
ข้อควรระวังที่ต้องรู้ก่อนใช้ Fleet Card ถึงจะมีข้อดีที่ตอบโจทย์ธุรกิจได้หลายแง่มุม แต่การใช้บัตร Fleet Card ก็มาพร้อมกับข้อควรระวังเช่นกัน โดยบัตรประเภทนี้จะมีการจำกัดการใช้งานที่เฉพาะ กล่าวคือผู้ถือบัตรจะไม่สามารถนำไปกดเงินสด ซื้อบริการ หรือสินค้าใดได้ นอกจากนี้ ตัวบัตร Fleet Card จะสามารถใช้ได้เฉพาะกับบริษัทน้ำมันที่ได้ทำสัญญาร่วมกันกับธนาคารผู้ออกบัตรเท่านั้น ที่สำคัญ ตัวบัตรยังมีการกำหนดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำสำหรับรถยนต์แต่ละคันเอาไว้ ซึ่งรายละเอียดในส่วนนี้จะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขธนาคารผู้ให้บริการนั่นเอง
เพียงเท่านี้เจ้าของธุรกิจก็รู้จักตัวช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายน้ำมันอย่างบัตร Fleet Card แล้ว หากใครกำลังพิจารณาแนวทางการบริหารต้นทุนค่าน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยป้องกันการทุจริตในหลาย ๆ แง่มุมได้ อย่าลืมนำข้อมูลของ Fleet Card ที่นำมาฝากนี้ไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจด้วยนะ